วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ตัวช่วยแก้ไวรัสซ้อนไฟล์ Unhidden

        งานเข้ากันเลยใช่มั้ยละครับ เพราะแค่เพลอเอาเฟลตไดรว์ตัวโปรด ไปเสียบคอมฯ ของเพื่อน หรือคอมของคนอื่นๆ แค่ครั้งเดียว กลับมาเปิดดูอีกที ไฟล์งานสำคัญๆ ของเราล่องหนไปหมด
อย่าตื่นตระหนกตกใจไปครับ เพราะบางครั้งไฟล์ต่างๆ ที่อยู่ในเฟลตไดรว์จริงๆ แล้วอาจจะยังอยู่ดีก็เป็นได้ เพียงแต่ไอ้ไวรัสตัวป่าวมันบังอาจซ่อนไฟล์หรือโฟลเดอร์ของเราเท่านั้นเอง



Unhidden เป็นโปรแกรมเล็กๆ ที่จะกู้ชีวิตของคุณให้กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง วิธีการก้อง่ายๆ ครับ เมื่อได้ไฟล์มากแล้วก้อแตกไฟล์ออกมาก่อน จะได้ไฟล์ที่ชื่อว่า Unhidden v3.exe 
1. เสียบเฟลตไดรว์ของคุณ 
2. เปิดไฟล์ Unhidden v3.exe 
3. พิมพ์ตัวอักษรที่เป็นที่อยู่เฟลตไดรว์ เช่นว่า เฟลตไดรว์อยู่ที่ไดรว์ F:\ ก้อพิมตัว “F” แล้วก้อ Enter 
4. พิมพ์ “Y” แล้วตามด้วยกด “Enter” รอให้โปรแกรมทำงานจนเสร็จ 
5. เสร็จพิธีแล้ว ปิดโปรแกรมได้เลยครับ
ที่นี้ลองมาตรวจสอบดู  . . . ไฟล์/โฟลเดอร์ของเราก็กลับมาเหมือนเดิมแล้ว


วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การทำ Network Printer Sharing ( แชร์เครื่องพิมพ์ผ่านระบบเครือข่าย )


*เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ต่อไปนี้ จะขอเรียกคอมพิวเตอร์ที่ต่อเครื่องพิมพ์ว่า “เครื่องแม่”
*ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการใช้เครื่องพิมพ์ขอเรียกว่า “เครื่องลูก”


ที่เครื่องแม่หลังจากติดตั้ง Driver เสร็จแล้วให้ทำการ เปิดแชร์ โดยให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
1.เข้าไปที่ Control panel ---- > Printers and Faxes



  

2.คลิกขวาที่ สัญลักษณ์เครื่องพิมพ์ที่เราต้องแชร์ แล้วเลือก Sharing…

3.จากนั้นคลิกที่ Share this printer โดยในช่อง Share name เราสามารถเปลี่ยนหรือใช้ค่าอัตโนมัติที่แสดงขึ้นมาก็ได้แต่ต้องจดจำการสะกดให้ถูกต้อง

4.จากนั้นให้จดบันทึกหมายเลข IP ของเครื่องแม่ไว้ วิธีการดูหมายเลขไอพีสามารถทำได้โดย คลิกที่ปุ่ม Start -- > Run แล้วพิมพ์ cmd ลงในช่อง กด Enter จะปรากฏหน้าต่าง Dos ดังรูป

5.ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้ ipconfig แล้วกด enter จะปรากฏหมายเลข ไอพี

6.หมายเลข ไอพี จะปรากฏในบรรทัด IP Address  (ตามตัวอย่างคือ 10.50.18.xxx) ให้จดบันทึกไว้
เสร็จสิ้นกระบวนการบนเครื่องแม่แล้ว ต่อไปให้ทำที่เครื่องลูกต่อ
.................................................END SERVER.............................................

ต่อไปนี้จะเป็นกระบวนการในฝั่งเครื่องลูก
7.เข้าไปที่ Control panel ---- > Printers and Faxes แล้วคลิกที่ Add a printer

8.คลิกที่ปุ่ม Next

9.เลือกหัวข้อ A network printer… แล้วคลิกที่ปุ่ม Next

10.เลือกที่ Connect to this ……. แล้วพิมพ์ ตามรูปแบบดังนี้  \\หมายเลขไอพี(ได้จากข้อ6)\ชื่อเครื่องพิมพ์(ได้จากข้อ 3) หรือหากชื่อเครื่องพิมพ์ที่ต้องการปรากฏในลิสที่แสดง ก็สามารถคลิกเลือกจากในลิสได้เ่ช่นกัน แล้วคลิก Next

11.จากนั้นระบบจะถามว่าจะให้ตั้งเป็นเครื่องพิมพ์อัตโนมัติหรือไม่ จะเลือกข้อไหนก็ได้ แล้วคลิกปุ่ม Next เป็นอันเสร็จสิ้น

12.เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะปรากฏสัญลักษณ์เครื่องพิมพ์ที่ได้แชร์ไว้


ขอบคุณ http://www.nan.rmutl.ac.th



วิธีติดตั้ง Cobian Backup โปรแกรมช่วยสำรองฐานข้อมูลอัตโนมัต

วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สอนวิธีการแชร์ไฟล์ระหว่าง Windows 7 กับ Windows XP

หลายคนที่ใช้ Windows 7 กับ Windows Xp จะมีปัญหาการ Setup ในการแชร์ข้อมูลกันภายในวงแลน ปัญหาคือ Setup ไม่เป็นนั้นเองหรือว่าSetup แล้วปรากฎว่า Accessไม่ได้ แต่วันนี้ผมจะบอกวิธีการ Setup เป็นทีละ Step by Step รับรองว่าคุณสามารถทำเป็นเองได้แน่ๆ ครับ ง่ายๆครับยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากเสียอีก ผมรู้ว่าคุณกำลังประสบกับปัญหาแชร์ไฟล์บน windows 7 ไม่ได้เนื่องจากเป็นมือใหม่หัดใช้ windows 7 หรือว่าทำแล้วยังไงก็ทำไม่ได้สักทีเลยต้องมาทำการ Search ใน Google แต่วันนี้เมื่อคุณได้ทำการอ่านบทความนี้เสร็จคุณก็สามารถเป็นมือโปรทันเลยของ windows 7
บทความนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มใช้ Windows 7 ที่มีปัญหากับการแชร์ไฟล์บน windows 7

****** ผมสมมุติขึ้นมาเองน่ะครับ *****Windows 7 : Ip adddress 192.168.1.3Windows Xp : Ip address 192.168.1.4Subnet mark 255.255.255.0 ทั้งคู่นะครับคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณอาจจะได้ IP มาจาก Router อัตโนมัติมาก็ได้นะครับวิธีการดู Ip ก็ Start > run > cmd > จากนั้นพิมพ์ ipconfig /all

**เกริ่นก่อนนะครับ1. ที่เครื่อง Windows 7 ผมได้ไปที่ Start - > Run -> cmdจากนั้นทำการ Ping ไปยัง Windows Xp ที่ Ip address 192.168.1.4 ปรากฎว่าpingได้**แต่้ถ้่่า Ping ไม่ได้อาจจะติด Firewall  ที่ Windows xp เองหรือว่า Antivirus บนเครื่อง Windows xp นะครับ 


2.ที่เครื่อง Windows XP ผมได้ Ping ไปยัง Ip address 192.168.100.1 (windows 7) ปรากฎว่า Time out  
สรุป windows 7 ping ไปยัง Windows Xp ได้ แต่ Windows Xp ping ไปยัง Windows 7 ไม่ได้เพราะว่า Service บางตัวของ Windows 7 บางตัวได้ ปิดอยู่ครับ

ขั้นตอนลงมือทำจริงในการแชร์ไฟล์
3. ที่ Windows 7
Start > Control Panel > เลือก Choose homegroup and sharing options
4. ขั้นตอนนี้ให้เลือก Change advaced sharing setting

5. จากนั้นให้เลือก Public (Current profile)

หัวข้อ File and Printer sharing ให้เป็น Turn on

และในส่วนของ Password protected sharing ก็ให้ปรับเป็น Turn Off ครับ และทำการกด Save ในการปิดนี้เป็นการปิด Password ในการแชร์ครับ ซึ่งตัว Defualt ของ Windows 7 จะมี Security เพื่อป้องกันการเข้ามา Access ในไฟล์หรือ Folder นั้นครับ 

6. จากนั้นไปที่ เครื่อง windows xp แล้วลอง Ping ไปมาที่ Windows 7 ปรากฎว่า Ping ได้แล้วครับ เนื่องจากเราไปเปิด turn on file and printer sharing เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

* ถ้ายัง Ping ไม่ได้อาจจะติด Antivirus ของ Windows 7 ครับ

7. จากนั้นมาที่ Windows 7 เพื่อทำการ Share Folder ในที่นี้
ผมขอสร้าง Folder Name : Share windows 7
เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ผมขออธิบายตามหมายเลขในรูปนะครับ

1. ให้คลิกขวา ที่ Folder Share windows7 แล้วเลือก Properties
2. ให้เลือก Tab Sharing 
3. เลือก Advanced Setting
4. ให้ติ๊ก (√) Share this folder จากนั้นให้ใส่ Share name : ผมขอใส่ชื่อว่า share windows7 
5. กด Permissions เพื่อกำหนดสิทธิ์
6. ผมให้สิทธิ์ Everyone เป็น Full Control นะครับ 
จากนั้น กด Ok เพื่อ Save 

แต่สำหรับคนที่อยากแชร์ไฟล์ของ windows 7 ทั้ง Drive ให้ทำตามนี้ครับ
ให้ไปที่ Drive ที่เราต้องการ Share file จากนั้นให้คลิกขวาที่ Drive เช่น Drive D จากนั้นเลือก Propreties

สังเกตุได้ว่าตรง Share มันกดไม่ได้ แต่เราจะมากด Advanced Sharing แทนครับ

จากนั้นให้เราติ๊กถูก Share this folder จากนั้นใส่ชื่อ Share name : ใส่ชื่อที่คุณต้องการลงไป ในที่นี้ผมใส่ไปว่า share - ITmk -Drive D

เมื่อตั้งชื่อDrive ที่จะแชร์เสร็จแล้วให้เลือกคลิกที่ Permission  และกำหนดสิทธิ์ของ คนๆนั้นที่สามารถเข้ามาใน Folder นี้ได้ ในที่นี้ผมให้ ทุกๆคน (Everyone) สามารถทำได้ทุกอย่าง ผมก็เลือก Full Control ไปเลยครับ (เพราะกรณีนี้ผมอยู่ที่บ้าน )

หลังจากนั้นจะเห็นได้ว่า จะมี Network Path ขึ้นมาแล้ว มันจะปรากฎตามนี้ครับ
\\ชื่อคอมของคุณ\ชื่อDrive ที่แชร์

จากนั้นผมลองทดสอบว่า Drive คอมพิวเตอร์ผมได้แชร์ Drive D ผมแล้วใช่ไหม โดยให้ไปที่ run จากนั้นพิมพ์ \\127.0.0.1

ก็จะเห็น Drive ทั้งหมดที่ผมได้ทำการแชร์ครับ

หรือจะใช้ Command ในการดูก็ได้ครับ ไปที่ Start > run > cmd > net share
ก็จะเห็น Drive ที่เราททำการแชร์ไว้ครับ
Drive C$ และ Drive D$ และ IPC$ และ ADMIN $ จะเป็น Drive Default ที่ windows ทำการแชร์ไว้ให้ครับแต่ที่ไม่เห็นก็เพราะว่าใส่ $ ไว้ครับ มันเป็นการ Hide ไว้ครับ




7. หลังจากเรากด Share ตรงหมายเลข 7 ก็ให้ให้เราพิมพ์ Everyone ลงไปแล้วกด Addตามภาพครับ

จากนั้นให้เลือกตรงลูกศรสีฟ้าครับ ว่าจะปรับให้ได้แค่ อ่านได้อย่างเดียว หรือ ทั้งอ่านและเขียน ลงได้ด้วยครับ เมื่อปรับแล้วให้กด Shareครับ

8. จากนั้นมาืที่เครื่อง Windows Xp และผม ได้เปิด My Computer ขึ้นมา
และผมได้พิมพ์ Ip address : \\192.168.100.1(Windows 7) > Enter 
(หรือชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ฺของ Windows 7 เครื่องนั้น)
ผมก็จะเห็น Folder : Share windows 7 ที่ผมได้แชร์มาจาก Windows 7 แล้วครับ

ในทางกลับกัน ถ้าคุณจะดึงไฟล์จาก Windows XP มายัง Windows 7
ก็แค่ สร้างแชร์โฟล์เดอร์ที่ Windows XP จากนั้นเปิดแชร์เอาไว้ แล้วค่อย Browse จาก Windows 7ตามภาพ

ผมอยู่ที่เครื่อง Windows 7 เปิด my computer ขึ้นมาจากนั้นพิมม์ \\192.168.1.4 (windows Xp) หรือชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ฺของ Windows XP เครื่องนั้น จากนั้นก็จะปรากฎ Folder ที่ผมแชร์เอาไว้ใน Windows Xp ครับ

เป็นไงกันมั้งครับ ลองทำตามวิธีที่ผมได้เขียนเอาไว้สำหรับการ แชร์ไฟล์Windows 7 ผมคิดว่าทุกคนน่าจะแชร์ไฟล์บน Windows 7 ของเราได้กันหมดแล้วนะครับ เพราะบทความนี้ผมเขียนไว้ละเอียดมากสำหรับมือใหม่กับ Windows 7 เมื่อคุณทำเสร็จแล้วคุณก็จะรู้ว่าการแชร์ไฟล์ของ Windows 7 นั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยครับ เพียงแต่ทาง Windows 7 นั้นได้ออกแบบว่าเพื่อ Security ที่สูงขึ้น
ถ้าคุณทำแล้วยังไม่สามารถเปิดแชร์ได้ ให้ลองตรวจสอบที่ Antivirus ดูครับว่าได้ทำการ Block ไว้อยู่หรือเปล่าในส่วนนี้ แต่ผมว่าถ้าคุณทำแค่นี้ คุณก็สามารถแชร์ไฟล์บน windows 7 ได้แล้วละครับ

วิธีเซ็ท IP Address ในวงแลน

   โพสนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ IP Addess สำหรับระบบเครือข่าย หรือ LAN บางคนสงสัยว่าทำไมต้องตั้ง IP Address ก็เพราะเพื่อเวลาเราใช้เล่นเกมส์ หรือ ส่งไฟล์หากัน ระบบคอมพิวเตอร์จะมองเครื่องคอมเป็น IP เพื่อชี้ว่าเครื่องไหนเป็นเครื่องไหน เช่น เครื่อง A IP 192.168.1.2 เครื่อง B IP 192.168.1.3 ส่วนทำไมต้องขึ้นต้นด้วย 192.168. อันนี้ไม่ขออธิบายนะครับ มันจะเป็นศัพท์เทคนิคของพวกระบบเครือข่าย แต่ไม่จำเป็นต้องขึ้นต้นด้วย 192.168. ก็ได้
  วิธี ตั้งค่า IP Address ก็ให้เข้าไปที่ start -> control panel -> network & sharing -> conections : [ชื่อ conection]
 
คลิกตรงที่ผมทำสีไว้นะครับ อันนี วิธีตั้งค่า IP Adress ของ Windows7
 
สำหรับ Windows XP ให้ไปที่ control panel -> my network place -> network connection -> คลิกขวาที่ Local area network เลือก properties
ตรง This connections users the following item ให้เลือก Internet Protocal (TCP/IP)



ต่อไปมาดูว่าส่วนประกอบของการตั้งค่า IP Address มีอะไรบ้าง
ถ้าเราเลือก Obtain an IP address automaticaly
แปลว่าเลือกให้ router ของเราจ่าย IP Address ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย


ให้เราเลือก Use the following IP address เพราะเราจะกำหนด IP เอง
IP address คือ IP ที่เราจะใส่ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้
สำหรับ IP address เราต้องตั้งค่าให้สอดคล้องกับ Default Gateway หรือ rounter นั่นเอง เช่น router ip 192.168.1.1 ต้องตั้ง ip address เครื่องคอมพิวเตอร์เป็น 192.168.1.2 [2-255] ห้ามตั้งเกินเช่น 192.168.1.256 แบบนี้ไม่ได้ และห้ามตั้งเป็น IP เดียวกันมันจะฟ้องว่าชนกัน แต่ถ้า IP rounter เป็น 192.168.0.1 ต้องตั้ง ip address เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็น 192.168.0.2 [2-255] นะครับ

วิธีดู IP rounter หรือที่เรียกว่า Default gateway ก็
ไปที่ start -> run พิมพ์  cmd / ipconfig

ตัวอย่าง Set ip ใน รพสต.นะครับให้ใส่ตามนี้

ip คอมแต่ละเครื่อง             192.168.1.2 [ถึง 255]
subnetmask              255.255.255.0
ip Gateway router       192.168.1.1
 
DNS server              203.113.24.199
                        203.113.127.199

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Bluee Screen หรือ จอฟ้ามันเกิดจากอาไร กัน

คำว่า Blue Screen คนเล่นคอม จะรู้จักดี และเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัว ไม่อยากให้เกิดกับคอมพิวเตอร์ของตัวเอง เพราะถ้าเกิดนั้นเป็นสัญญาณ บอกเหตุว่า คอมพิวเตอร์ของเราเริ่มจะมีปัญหาซะแล้ว

         แต่่ที่น่าเจ็บใจคือมันบอกเป็นเลขรหัสที่เราไม่รู้ว่า มันคืออะไร และจะมีทางแก้ไขอย่างไร ที่จริงแล้วรหัสที่แจ้งของ Blue Screen มีเกินร้อยตัว แต่จะมาแนะนำเฉพาะที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ



(stop code 0X000000BE)Attempted Write To Readonly Memory
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการนี้เกิดจากการลง driver หรือ โปรแกรม หรือ service ที่ผิดพลาด เช่น ไฟล์บางไฟล์เสีย ไดร์เวอร์คนละรุ่นกัน ทางแก้ไข ให้ uninstall โปรแกรมตัวที่ลงก่อนที่จะเกิดปัญหานี้ ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวเก่ามาใช้ หรือ หาไดร์เวอร์ที่ล่าสุดมาลง (กรณีที่มีใหม่กว่า) ถ้าเป็นพวก service ต่างๆที่เราเปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิด หรือ disable ซ

(stop code 0X000000C2) Bad Pool Caller
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      ตัวนี้จะคล้ายกับตัวข้างบน แต่เน้นที่พวก hardware คือเกิดจากอัฟเกรดเครื่องพวก Hardware ต่าง เช่น ram ,harddisk การ์ดต่างๆ ไม่ compatible กับ XP ทางแก้ไข
ก็ให้เอาอุปกรณ์ที่อัฟเกรดออก ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ให้ลงไดร์เวอร์ หรือ อัฟเดท firmware ของอุปกรณ์นั้นใหม่ และคำเตือนสำหรับการจะอัฟเดท ให้ปิด anti-virus ด้วยนะคะเดียวมันจะยุ่งเพราะพวกโปรแกรม anti-virus มันจะมองว่าเป็นไวรัส

(stop code 0X0000002E) Data Bus Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการนี้เกิดจากการส่งข้อมูลที่เรียกว่า BUS ของฮาร์ดแวร์เสียหาย ซึ่งได้แก่ ระบบแรม ,Cache L2 ของซีพียู , เมมโมรี่ของการ์ดจอ, ฮาร์ดดิสก์ทำงานหนักถึงขั้น error (ร้อนเกินไป) และเมนบอร์ดเสีย

(stop code 0X000000D1)Driver IRQL Not Less Or Equal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
    
  อาการไดร์เวอร์กับ IRQ(Interrupt Request ) ไม่ตรงกัน การแก้ไขก็เหมือนกับ error ข้อที่ 1

(stop code 0X0000009F)Driver Power State Failure
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการนี้เกิดจาก ระบบการจัดการด้านพลังงานกับไดรเวอร์ หรือ service ขัดแย้งกัน เมื่อคุณให้คอมทำงานแบบ"Hibernate" แนวทางแก้ไข ถ้าวินโดว์แจ้ง error ไดร์เวอร์หรือ service ตัวไหนก็ให้ uninstall ตัวนั้น หรือจะใช้วิธี Rollback driver หรือ ปิดระบบจัดการพลังงานของวินโดว์ซะ

(stop code 0X000000CE) Driver Unloaded Without Cancelling Pending Operations
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการไดร์เวอร์ปิดตัวเองทั้งๆ ทีวินโดว์ยังไม่ได้สั่ง การแก้ไขให้ทำเหมือนข้อ 1

(stop code 0X000000F2)Hardware Interrupt Storm
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการที่เกิดจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น USB หรือ SCSI controller จัดตำแหน่งกับ IRQ ผิดพลาด สาเหตุจากไดร์เวอร์หรือ Firmware การแก้ไขเหมือนกับข้อ 1

(stop code 0X0000007B)Inaccessible Boot Device
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการนี้จะมักเจอตอนบูตวินโดว์จะมีข้อความบอกว่าไม่สามารถอ่านข้อมูลของไฟล์ระบบหรื อ Boot partitions ได้ ให้ตรวจฮาร์ดดิสก์ว่าปกติหรือไม่ สายแพหรือสายไฟที่เข้าฮาร์ดดิสก์หลุดหรือไม่ ถ้าปกติดีก็ให้ตรวจไฟล์ Boot.ini อาจจะเสีย หรือไม่ก็มีการทำงานแบบ Multi OS ให้ตรวจดูว่าที่ไฟล์นี้อาจเขียน Config ของ OS ขัดแย้งกัน

       อีกกรณีหนึ่ง ที่เกิด error นี้ คือเกิดขณะ upgrade วินโดว์ สาเหตุจากมีอุปกรณ์บางตัวไม่ Compatible ให้ลองเอาอุปกรณ์ ที่ไม่จำเป็นหรือคิดว่ามีปัญหาออก เมื่อทำการ upgrade วินโดว์เรียบร้อย ค่อยเอาอุปกรณ์ที่มีปัญหาใส่กลับแล้วติดตั้งด้วยไดร์ เวอร์รุ่นล่าสุด

(stop code 0X0000007A) Kernel Data Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการนี้เกิดมีปัญหากับระบบ virtual memory คือวินโดว์ไม่สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลที่ swapfile ได้ สาเหตุอาจเกิดจาก ฮาร์ดดิสก์เกิด bad sector, เครื่องติดไวรัส, ระบบ SCSI ผิดพลาด, RAM เสีย หรือ เมนบอร์ดเสีย

(stop code 0X00000077)Kernel Stack Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการ และสาเหตุเดียวกับข้อ 9

(stop code 0X0000001E)Kmode Exception Not Handled
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการนี้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดของไดร์เวอร์ หรือ service กับ หน่วยความจำ และ IRQ ถ้ามีรายชื่อของไฟล์หรือ service แสดงออกมากับ error นี้ให้ทำการ uninstall โปรแกรมหรือทำการ Roll back ไดร์เวอร์ตัวนั้น

      ถ้ามีการแจ้งว่า error ที่ไฟล์ win32k สาเหตุเกิดจาก การ control software ของบริษัทอื่นๆ (Third-party) ที่ไม่ใช้ของวินโดว์ ซึ่งมักจะเกิดกับพวก Networking และ Wireless เป็นส่วนใหญ่
Error นี้อาจจะเกิดสาเหตุอีกอย่าง นั้นคือการ run โปรแกรมต่างๆ แต่หน่วยความจำไม่เพียงพอ

(stop code 0X00000079)Mismatched Hal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
      อาการนี้เกิดการทำงานผิดพลาดของ Hardware Abstraction Layer (HAL) มาทำความเข้าใจกับเจ้า HAL ก่อน HAL มีหน้าที่เป็นตัวจัดระบบติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟท์แวร์ว่าแอพพลิเคชั่นตัวไหนวิ่งกับอุปกรณ์ตัวไหนให ้ถูกต้อง ยกตัวอย่าง คุณมีซอฟท์แวร์ที่ออกแบบไว้ใช้กับ Dual CPU มาใช้กับเมนบอร์ดที่เป็น Single CPU วินโดว์ก็จะไม่ทำงาน วิธีแก้คือ reinstall วินโดว์ใหม่
      สาเหตุอีกประการการคือไฟล์ที่ชื่อ NToskrnl.exe หรือ Hal.dll หมดอายุหรือถูกแก้ไข ให้เอา Backup ไฟล์ หรือเอา original ไฟล์ที่คิดว่าไม่เสียหรือเวอร์ชั่นล่าสุดก๊อปปี้ทับไฟล์ที่เสีย

(stop code 0X0000003F)No More System PTEs
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
      อาการนี้เกิดจากระบบ Page Table Entries (PTEs) ทำงานโดย Virtual Memory Manager (VMM) ผิดพลาด ทำให้วินโดว์ทำงานโดยไม่มี PTEs ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวินโดว์ อาการนี้มักจะเกิดกับการที่คุณทำงานแบบ multi monitors
ถ้าคุณเกิดปัญหานี้บ่อยครั้ง คุณสามารถปรับแต่ง PTEs ได้ใหม่ ดังนี้
1. ให้เปิด Registry ขึ้นมาแก้ไข โดยไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์คำสั่ง Regedit
2. ไปตามคีย์นี้ HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetControlSe ssion ManagerMemory Management
3. ให้ดูที่หน้าต่างขวามือ ดับคลิกที่ PagedPoolSize ให้ใส่ค่าเป็น 0 ที่ Value data และคลิก OK
4. ดับเบิลคลิกที่ SystemPages ถ้าคุณใช้ระบบจอแบบ Multi Monitor ให้ใส่ค่า 36000 ที่ Value data หรือใส่ค่า 40000 ถ้าเครื่องคุณมี RAM 128 MB และค่า 110000 ในกรณีที่เครื่องมี RAM เกินกว่า 128 MB แล้วคลิก OK รีสตาร์ทเครื่อง

(stop code 0X00000024) NTFS File System
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
      อาการนี้สาเหตุเกิดจากการรายงานผิดพลาดของ Ntfs.sys คือไดร์เวอร์ของ NTFS อ่านและเขียนข้อมูลผิดพลาด สาเหตุนี้รวมถึง การทำงานผิดพลาดของ controller ของ IDE หรือ SCSI เนื่องจากการทำงานของโปรแกรมสแกนไวรัส หรือ พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เสีย คุณๆ สามารถทราบรายละเอียดของerror นี้ได้โดยให้เปิดดูที่ Event Viewer วิธีเปิดก็ให้ไปที่ start > run แล้วพิมพ์คำสั่ง eventvwr.msc เพื่อเปิดดู Log file ของการ error โดยให้ดูการ error ของ SCSI หรือ FASTFAT ในหมวด System หรือ Autochk ในหมวด Application

(stop code 0X00000050)Page Fault In Nonpaged Area
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
      อาการนี้สาเหตุการจากการผิดพลาด ของการเขียนข้อมูลในแรม การแก้ไขก็ให้ทำความสะอาดขาแรม หรือลองสลับแรมดูหรือไ ม่ก็หาโปรแกรมที่ test แรมมาตรวจว่าแรมเสีย หรือไม่

(stop code 0Xc0000221)Status Image Checksum Mismatch
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
      อาการนี้สาเหตุมาจาก swapfile เสียหายรวมถึงไดร์เวอร์ด้วย การแก้ไขก็เหมือนข้อ 15

(stop code 0X000000EA)Thread Stuck In Device Driver 
 สาเหตุและแนวทางแก้ไข
:
      อาการของ error นี้คือการทำงานของเครื่องจะทำงานในแบบวนซ้ำๆ กันไม่สิ้นสุด เช่นจะรีสตาร์ทตลอด หรือแจ้งerror อะไรก็ได้ขึ้นมาไม่หยุด ปัญหานี้ สาเหตุอาจจะเกิดจาก Bug ของโปรแกรมหรือสาเหตุอื่นๆ เป็นร้อย การแก้ไขให้พยายามทำตามนี้

1.ให้ดูที่ Power supply ของคุณว่าจ่ายกำลังไฟเพียงพอกับความต้องการของคอมคุณ หรือไม่ ให้ดูว่าในเครื่องคุณมีอุปกรณ์มากไป ไม่เหมาะกับ Power supply ของคุณ ก็ให้เปลี่ยนตัวใหม่ให้กำลังมากขึ้น
2. ให้คุณดูที่การ์ดจอว่าได้ใช้ไดร์เวอร์ตัวล่าสุด ถ้าแน่ใจว่าใช้ตัวล่าสุดแล้วยังมีอาการ ก็ให้ทำการ Rollback ไดร์เวอร์ตัวก่อน ที่จะเกิดปัญหา
3. ตรวจดูการ์ดจอ และเมนบอร์ดว่าเสียหรือไม่เช่น มีรอยไหม้, ลายวงจรขาด มีชิ้นส่วนบางชิ้นหลุดจากตำแหน่งเดิม เป็นต้น
4. ดูที่ Bios ว่าส่วนของ VGA slot เลือกโหมด 4x,8x ถูกตามสเปคของการ์ดหรือไม่
5. เช็คดูที่ผู้ผลิดเมนบอร์ดว่ามีไดร์เวอร์ตัวใหม่ หรือไม่ ถ้ามีให้โหลดลงใหม่ซะ
6. ถ้าคุณมีการ์ดแลนหรือเมนบอร์ดของคุณมี on board อยู่ให้ disable ฟังก์ชั่น "PXE Resume/Remote Wake Up" โดยไปปิดที่ BIOS

(stop code 0X0000007F) unexpected Kernel Mode Trap 
 สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
      อาการนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกับนัก Overclock เป็นอาการ RAM ส่งข้อมูลให้ CPU ไม่สัมพันธ์กันคือ CPU วิ่งเร็วเกินไป หรือร้อนเกินไปสาเหตุเกิดจากการ Overclock วิธีแก้ก็คือลด clock ลงมาให้เป็นปกติ หรือ หาทางระบายความร้อนจาก CPU ให้มากที่สุด

(stop code 0X000000ED)Unmountable Boot Volume 
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
      อาการที่วินโดว์หาฮาร์ดดิสก์ไม่เจอ (ไม่ใช่ตัวบูตระบบ) ในกรณีที่คุณมีฮาร์ดดิสก์หลายตัว หนึงในนั้น คุณอาจใช้สายแพ ของฮาร์ดดิสก์ผิด เช่น ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ 33MB/secound ซึ่งต้องใช้สายแพ 40 pin แต่คุณเอาแบบ 80 pin ไปต่อแทน

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แก้ปัญหา error Fake seriall ของปลอม - IDM

บางคนพอใช้ได้สักพักมันบอกว่า serial หรือ patch ที่ crack ไปมัน FAKE SERIA
แสดงว่าโปรแกรมมีการอัพเดท

วิธีแก้
1.พิมพ์ regedit ที่ run กด enter

2.ไปที่ hkey_local_machine คลิกตรงคำว่า software
3.หาคำว่า internetdownloadmanager คลิกขวา delete
4.ลงโปรแกรมใหม่แล้ว ต้องตั้งค่าไม่ให้อัพเดทครับ ทีนี้ก็จะไม่ขึ้น Fake seriall แล้วครับ


วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

10 วิธีง่ายๆ ในการดูแล รักษา คอมพิวเตอร์ของคุณ

                                                                      10 วิธีง่ายๆ ในการดูแล รักษา คอมพิวเตอร์ของคุณ
มาแล้วครับสำหรับผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์กันอยู่ทุกวัน เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งของเราเลยก็ว่าได้สำหรับคอมพิวเตอร์เองก็คล้ายกับตัวเราครับต้องดูแลเอาใจใส่ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันก็ต้องคอยตรวจเช็คกัน จะมีวิธีการอย่างไรนั้นลองมาดูกันครับ


มาทำความเข้าใจในเรื่องของคอมพิวเตอร์กันก่อน 

คอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันๆบางทีเราอาจเคยสงสัยว่า แต่ละส่วน หรือองค์ประกอบหลักของคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง จะขอแนะนำกันเล็กๆน้อยๆนะครับ สำหรับคอมพิวเตอร์เองจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และ ซอฟต์แวร์ (Software)

ฮาร์ดแวร์ (Hardware)

สำหรับฮาร์ดแวร์คือ ส่วนที่เราสามารถจับต้องได้ทุกชิ้นครับไม่ว่าจะเป็น จอ, เคส, เมาส์, คีย์บอร์ด, หูฟัง, ซีพียู, เมนบอร์ด, อะไรที่สัมผัสได้เราก็เรียกว่าฮาร์ดแวร์ในส่วนของคอมพิวเตอร์ครับผม


ซอฟต์แวร์ (Software)
สำหรับซอฟต์แวร์คือ ส่วนที่เราใช้งานและควบคุมโดยการสังการจากฮาร์ดแวร์ครับ นั่นคือระบบปฏิบัติการ หรือที่เรารู้จักกันเช่น วินโดวส์(Windows) รวมถึงโปรแกรม แอพพลิเคชั่นต่างๆที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office, Winamp, MSN เป็นต้นที่เราต้องรู้จักกับสองอย่างทั้ง ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์กันก่อนก็เพราะว่ามันมีความสัมพันธ์กันครับหากเราดูแลแค่อย่างใดอย่างนึงก็ไม่ดีครับเพราะสองอย่างนี้จะทำงานกันได้ต้องมาเป็นคู่ครับ ถ้าเรามีคอมพิวเตอร์แต่ไม่มีโปรแกรมก็เล่นไม่ได้ ว่ากันง่ายๆเลย 


วิธีการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ง่ายๆ 10 วิธีดังนี้

1.ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์บ้าง : วิธีการทำความสะอาดคอมพิวเตอร์นั้นไม่ยากอย่างที่เราคิดครับ แต่ก็ต้องทำให้ถูกหลักด้วยนะครับ เริ่มจากการถอดปลั๊กไฟก่อน และทำความสะอาดโดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่า หรือน้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ เช็ดส่วนต่างๆที่เป็นตัวเครื่องหรือกรอบหน้าจอ เมาส์ คีย์บอร์ด รวมถึงสายไฟคอมพิวเตอร์

2.เป่าฝุ่นหรือกำจัดฝุ่นที่อยู่บนตัวเครื่อง : สำหรับวิธีนี้แนะนำให้ใช้แปลงทาสีที่มีขนอ่อนๆ อาจจะเป็นแปรงด้ามไม้ไผ่หาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้างครับ เพราะหน้าจอหรือตัวเครื่องบางรุ่น หากใช้แปรงที่มีขนหนาอาจทำให้เป็นรอยได้ อย่าลืมใส่ผ้าปิดจมูกก่อนทำความสะอาดนะครับถ้าใครมีเครื่องเป่าฝุ่นหรือเป่าลม สามารถเป่าเครื่องได้นะครับเพื่อไล่ฝุ่นออกจากคอมพิวเตอร์

3.ตรวจเช็คความเรียบร้อยภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ : วิธีนี้อาจยุ่งยากหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดในด้านการช่างครับ เพราะต้องทำการเปิดฝาเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะต้องไขน็อตที่ล็อกฝาข้างอยู่ ควรตรวจเช็คพัดลมระบายความร้อนและสายไฟที่อยู่ภายในครับว่ายังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีอยู่หรือเปล่าเพราะความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์เสียได้เพราะอุปกรณ์สึกหรอ

4.จัดวางคอมพิวเตอร์ให้ถูกหลัก : สำหรับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ การจัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรวางให้ห่างจากกำแพง หรือมีช่องว่างด้านหลังจอประมาณ 1 ไม้บรรทัด ครับเพราะความร้อนที่กระจายออกมาจะได้มีการระบายที่โล่งและไม่เกิดอุณหภูมิสูง รวมถึงตัวเคสคอมพิวเตอร์ก็ควรตั้งในที่มีช่องระบายความร้อนให้ลมสามารถพัดเข้า-ออกได้  ผู้ที่ใช้โน้ตบุ้คก็เช่นเดียวกันครับ ควรยกระดับด้านล่างของโน้ตบุ้คให้มีช่องว่างระบายอากาศด้านล่างด้วย เนื่องจากโน้ตบุ้คจะมีความร้อนที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป แนะนำให้หาพัดลมตัวเล็กๆ หรือพัดลมตั้งพื้นเป่าจะแน่นอนสุดครับ เย็นทั้งคนและเครื่อง

5.เข้าศูนย์หรือร้านซ่อมคอมใกล้บ้าน : วิธีนี้สำหรับคนที่ไม่สะดวกในการจัดการคอมพิวเตอร์ก็ต้องฝากให้เป็นงานของช่างคอมพิวเตอร์ช่วยตรวจสอบกันว่าอุปกรณ์ต่างๆยังอยู่ในสภาพดีไหม ก่อนตรวจเช็คสอบถามราคาในการดำเนินการก่อนนะครับ 

6.จัดการไฟล์ที่ไม่ได้ใช้แล้วหรือไม่สำคัญ : ไฟล์ต่างๆที่เราดาวน์โหลดมาหรือเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์หากไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือไม่สำคัญก็ควรลบทิ้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ เพราะจะทำให้ไม่หนักเครื่องในส่วนของหน่วยความจำ จะได้พร้อมและมีทีว่างรับข้อมูลใหม่

7.จัดระเบียบโฟลเดอร์ต่างๆ : ในส่วนนี้จะช่วยประหยัดทั้งเวลาและช่วยในเรื่องการทำงานของเราได้เลยครับเพราะหากเราจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เวลาที่หาไฟล์ต่างๆก็จะสะดวกมากขึ้น เครื่องก็จะทำงานไม่หนักครับ

8.กำจัดและสแกนไวรัสในคอมพิวเตอร์ : วิธีนี้อาจต้องใช้เวลาหน่อยครับเพราะแน่นอนว่าสำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มานานข้อมูลต่างๆรูปภาพไฟล์เพลง งานต่างๆมากมายที่อยู่ในเครื่องมาจากหลากหลายที่ ทำให้มีไวรัสแฝงตัวอยู่ในโฟลเดอร์ต่างทั้งที่เราไม่รู้บ้าง ยิ่งข้อมูลมากยิ่งใช้เวลาสแกนนานมากขึ้น ลองหาโปรแกรมสแกนไวรัสสักตัวอย่างเช่น nod32 เพื่อให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่มีปัญหาครับ

9.ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งานทิ้ง : หากเรารู้ว่าโปรแกรมไหนที่เราไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือเกมส์ต่างๆที่เราลงไว้ในคอมพิวเตอร์ไม่ได้เล่นเราควรจะลบออกครับเช่นเดียวกับโฟลเดอร์และไฟล์ เพราะจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไม่ทำงานหนักที่ต้องเตรียมโปรแกรมต่างๆคอยเสิร์ฟเวลาที่เราจะใช้งาน

10.หมั่นหาวิธีหรือการใช้งานที่ถูกต้อง : จริงๆแล้ววิธีนี้ก็คือการใช้งานคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องตามพื้นฐานครับ เพราะถ้าเราไม่รู้หลักในการใช้งานแล้ว ตั้งแต่ข้อ 9 จนถึง 1 ที่กล่าวมาก็อาจทำให้เราละเลยในการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์จากการใช้งานที่ไม่ถูกต้องได้ ไม่ยากครับเพียงแค่เราคอยเอาใจใส่ทั้งตัวเราและคอมพิวเตอร์ ต้องเริ่มจากตัวเราก่อนครับเพราะถ้าเราไม่ดูแลสุขภาพตัวเราก่อน เวลาที่เราจะดูแลคอมพิวเตอร์ก็จะมีน้อยลงครับ

อย่าลืมนะครับ วิธีการดูแลคอมพิวเตอร์ไม่ยากอย่างที่เราคิดจริงๆ มีมากมายหลายวิธีแต่ที่เรียบเรียงให้นี้ เป็นวิธีหลักๆในการดูแลคอมพิวเตอร์ครับ

ขอบคุณ http://www.tososay.com/